🐱 การรักษา แมว ปากบวม ใช้ยาอะไร? ต้องพักฟื้นยังไง? (คู่มือสำหรับเจ้าของแมว)

แมวปากบวม เป็นอาการที่พบได้บ่อย ตั้งแต่เคสเล็กน้อยอย่างอาการแพ้ ไปจนถึงโรคในช่องปากที่ต้องผ่าตัดหรือรักษาต่อเนื่อง หากเจ้าของเห็นว่าปากของแมวเริ่มบวมแดง กินอาหารยาก หรือน้ำลายไหลมากกว่าปกติ นี่คือสัญญาณสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

บทความนี้จะพาไปรู้จัก ยาที่ใช้รักษาอาการปากบวมในแมว วิธีดูแลแมวระหว่างพักฟื้น และเทคนิคป้องกันไม่ให้อาการกลับมาอีก เพื่อให้ทาสแมวรับมือได้อย่างถูกต้อง

🩺 สาเหตุของแมวปากบวมที่พบบ่อย

ก่อนรักษา ต้องรู้สาเหตุ เพราะยาที่ใช้จะต่างกันไปตามปัญหา เช่น

• อาการแพ้ (แมลงกัดต่อย อาหาร หรือสารเคมี)

• ฟันอักเสบ เหงือกอักเสบ

• แผลในปากจากการกัดสิ่งแปลกปลอม

• ติดเชื้อแบคทีเรีย / ไวรัส

• Feline Eosinophilic Granuloma Complex (EGC)โรคยอดฮิตทำให้ริมฝีปากบนบวมเป็นก้อนนูน

• มะเร็งในช่องปาก (น้อยกว่า แต่ต้องระวัง)

💊 ยาที่ใช้รักษาแมวปากบวม (ขึ้นกับสัตวแพทย์วินิจฉัย)

❗ หมายเหตุ ห้ามซื้อยารักษาเอง เพราะยาหลายชนิดเป็นพิษต่อแมวและต้องคำนวนตามน้ำหนัก

1) ยาต้านอักเสบ (NSAIDs)

ช่วยลดบวม ลดปวด เช่น

• Meloxicam (สำหรับแมวโดยเฉพาะ)

• Robenacoxib

ใช้เฉพาะตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น

2) ยาสเตียรอยด์ (เมื่อเกี่ยวข้องกับภูมิแพ้หรือ EGC)

ช่วยลดการอักเสบได้เร็ว

• Prednisolone

• Dexamethasone (ใช้ในบางกรณีเร่งด่วน)

เหมาะกับเคส

• แพ้รุนแรง

• EGC

• อาการบวมเฉียบพลัน

3) ยาปฏิชีวนะ (เมื่อเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย)

แพทย์อาจให้เมื่อมี:

• แผลในปาก

• ฟันอักเสบ

• หนอง

• กลิ่นปากรุนแรงผิดปกติ

ตัวอย่าง:

• Amoxicillin-Clavulanic acid

• Clindamycin

4) ยาแก้แพ้ (Antihistamine)

ช่วยลดอาการบวมจากภูมิแพ้

• Chlorpheniramine

• Cetirizine

5) การถอนฟัน / ผ่าตัด

หากมีสาเหตุจาก:

• ฟันเน่า

• รากฟันแตก

• เนื้องอก

แพทย์อาจต้องทำหัตถการร่วมด้วย

🏥 การดูแลแมวพักฟื้นหลังรักษา

✔ 1) ให้อาหารอ่อน

เหมาะกับแมวที่ปากเจ็บ เช่น:

• อาหารเปียก

• อาหารบด

• น้ำซุปไก่ไม่ปรุงรส

ช่วยให้กินง่าย ลดการเสียดสีบริเวณที่บวม

✔ 2) ทำความสะอาดปากอย่างอ่อนโยน

ใช้ตามคำแนะนำจากหมอ เช่น:

• น้ำยาล้างช่องปากสำหรับแมว

• เจลลดการอักเสบในช่องปาก

ห้ามใช้ของคนเด็ดขาด (เช่น น้ำยาบ้วนปาก)

✔ 3) ให้กินยาให้ครบตามแพทย์สั่ง

ยาบางชนิดต้องกินต่อเนื่อง 5–14 วันห้ามหยุดยาเองเพราะอาการอาจกลับมา

✔ 4) สังเกตอาการผิดปกติ

รีบพากลับไปหาหมอทันทีถ้า:

• บวมเพิ่ม

• หายใจลำบาก

• น้ำลายเป็นเลือด

• ไม่ยอมกินอาหารมากกว่า 24 ชม.

✔ 5) ลดสาเหตุที่ทำให้แพ้

กรณีแมวปากบวมจากภูมิแพ้:

• เปลี่ยนอาหารเป็นสูตร hypoallergenic

• ทำความสะอาดบ้านเพื่อลดไรฝุ่น

• ป้องกันแมลงกัดต่อย

🔮 การป้องกันไม่ให้แมวปากบวมซ้ำ

• ตรวจสุขภาพช่องปากปีละ 1–2 ครั้ง

• แปรงฟันแมวด้วยยาสีฟันสำหรับแมว

• หลีกเลี่ยงอาหารที่เคยทำให้แพ้

• จัดบ้านให้ปลอดภัย หลีกเลี่ยงสารเคมี

• ควบคุมเห็บหมัดแมลงกัดต่อยอย่างสม่ำเสมอ

🐱📌 สรุป

แมวปากบวมไม่ใช่อาการเล็กน้อยเสมอไป อาจเกิดจากทั้ง แพ้, ติดเชื้อ, ปัญหาฟัน, หรือโรคเฉพาะทางอย่าง EGC การรักษาต้องอาศัยสัตวแพทย์วินิจฉัยเป็นหลัก เพราะยาหลายชนิดจัดเป็น “ยาควบคุม” และอาจอันตรายถ้าใช้ผิดวิธี

การดูแลที่บ้านควรเน้น✔ อาหารอ่อน✔ ให้ยาให้ครบ✔ ลดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้แพ้✔ สังเกตอาการทุกวัน

การรักษาเร็ว = โอกาสหายสูงขึ้นมาก